กรุงศรีเผยผลกำไรสุทธิ ไตรมาสแรกปี 2568 จำนวน 7.53 พันล้านบาท เน้นการเติบโตสินเชื่อที่มีคุ ณภาพ พร้อมบริหารต้นทุนเสริมประสิทธิ ภาพเต็มกำลัง
กรุงเทพฯ (18 เมษายน 2568) – กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2568 มีกำไรสุทธิจำนวน 7,533 ล้านบาท เติบโต 20.0% จากไตรมาสที่สี่ของปี 2567 โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากยุ
เงินให้สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่
สรุปผลประกอบการและฐานะการเงินที่สำคัญสำหรับไตรมาสแรกของปี 2568:
- กำไรสุทธิ จำนวน 7,533 ล้านบาท ในไตรมาสแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้น 20.0% หรือจำนวน 1,257 ล้านบาท จากไตรมาสที่สี่ของปี 2567 โดยได้รับแรงสนับสนุนหลักจากยุ
ทธศาสตร์ของกรุงศรีในปี 2568 ที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างมีคุ ณภาพในอุตสาหกรรมเป้าหมาย รวมถึงนโยบายการบริหารต้นทุ นทางการเงินและเพิ่มประสิทธิ ภาพการดำเนินงานอย่างเต็มศั กยภาพ รวมถึงการลดลงของผลขาดทุนด้ านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ กำไรสุทธิทรงตัวเมื่อเทียบกับช่ วงเดียวกันของปีก่อน - เงินให้สินเชื่อรวม ทรงตัวจากสิ้นเดือนธันวาคม 2567 ท่ามกลางความท้าทายและความเสี่
ยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้น แต่จากการดำเนินงานเชิงรุกที่มุ่ งเน้นการเติบโตของสินเชื่อกลุ่ มเป้าหมาย ส่งผลให้เงินให้สินเชื่อธุรกิ จขนาดใหญ่เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 4.7% หรือจำนวน 30,904 ล้านบาท ขณะที่สินเชื่อเพื่อธุรกิ จขนาดกลางและขนาดย่อมรวมทั้งสิ นเชื่อเพื่อรายย่อยปรับตัวลดลง 2.4% และ 2.5% ตามลำดับ - เงินรับฝาก เพิ่มขึ้นที่ 0.9% หรือจำนวน 16,753 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2567 จากการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนเงิ
นรับฝากที่มีต้นทุนต่ำ ประกอบด้วยเงินรับฝากประจำที่มี อายุน้อยกว่าหกเดือนและเงินรั บฝากออมทรัพย์ สุทธิด้วยการลดลงของเงินรั บฝากประจำที่ต้นทุนสูงกว่ าและระยะเวลานานกว่า สะท้อนการบริหารสภาพคล่องและต้ นทุนทางการเงินเชิงรุ กและรอบคอบระมัดระวัง - ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 4.1% เพิ่มขึ้น 7 เบสิสพอยท์จากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหลักมาจากต้นทุนเงิ
นรับฝากที่ลดลง สะท้อนการบริหารต้นทุนทางการเงิ นเชิงรุก ส่งผลให้เกิดการปรับโครงสร้ างและระยะเวลาของเงินรับฝากอย่ างมีประสิทธิภาพ - รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 5.4% หรือ 607 ล้านบาท จากไตรมาสแรกของปี 2567 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้
นของหนี้สูญรับคืน กําไรจากทรัพย์สิ นรอการขายและเงินปันผล - อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ ปรับตัวดีขึ้นที่ 45.7% เทียบกับ 46.5% ในไตรมาสก่อนหน้า จากการควบคุมต้นทุนที่มีประสิ
ทธิภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การดำเนิ นงานของธนาคาร - อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้
เกิดรายได้ (NPL Ratio) อยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ที่ 3.29% ขณะที่อัตราส่วนผลขาดทุนด้ านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่ อสินเชื่อรวมปรับตัวดีขึ้นสู่ ระดับ 211 เบสิสพอยท์ ในไตรมาสแรกของปี 2568 เมื่อเทียบกับ 234 เบสิสพอยท์ ในไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่อัตราส่วนเงินสำรองต่อสิ นเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับ 124.5% - อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรั
พย์เสี่ยง (ของธนาคาร) อยู่ที่ 19.14% เทียบกับ 19.38% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2567
นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่
“แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในระยะต่
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 กรุงศรี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่