บลจ.อีสท์สปริง เปิด 2 ทางเลือกสับเปลี่ยนกองทุน LTF เข้า Thai ESGX เริ่มวันนี้-30 มิ.ย. 68

บลจ.อีสท์สปริง เปิด 2 ทางเลือกสับเปลี่ยนกองทุน LTF เข้า Thai ESGX  เริ่มวันนี้-30 มิ.ย. 68 เน้นกองผสม “ES-DIV70THAIESGX”  และ กองหุ้นไทยปันผลดี“ES-DIVTHAIESGX” 

บลจ.อีสท์สปริง เปิดบริการรับสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนกองทุน LTF ภายใต้บริหารจัดการ เข้ากองทุน Thai ESGX  เสนอทางเลือก 2 กอง “ES-DIV70THAIESGX” กองทุนผสมเน้นลงทุนหุ้นไทยปันผลดีกับตราสารหนี้ ESG และ “ES-DIVTHAIESGX” กองทุนตราสารทุนเน้นลงทุนหุ้นไทยปันผลดี ยกเว้นค่าธรรมเนียมส่วนต่างมูลค่าหน่วยลงทุนขาออก พร้อมเปิดเสนอขายสำหรับเงินลงทุนใหม่ ปี 2568 ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2568 มอบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับเฉพาะยอดเงินลงทุนใหม่ (ไม่รวมการโอนเงินจากกองทุน LTF) ทุกๆ 50,000 บาท รับสิทธิพิเศษเป็นหน่วยลงทุนกองทุน (ES-CASH) มูลค่า 100 บาท ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีปี 2568 สูงสุด 600,000 บาท

นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า บลจ.อีสท์สปริง อยู่ระหว่างการเปิดให้บริการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ภายใต้บริหารจัดการ จำนวนทั้งสิ้น 6 กองทุน ไปยังกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) โดยมี 2 กองทุนให้เลือก ได้แก่ กองทุนเปิดอีสท์ปริง หุ้นปันผล 70 ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (ES-DIV70THAIESGX) เป็นกองทุนผสมที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยปันผลดีและตราสารหนี้ ESG และกองทุนเปิดอีสท์ปริง หุ้นปันผล ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (ES-DIVTHAIESGX) เป็นกองทุนตราสารทุน ที่เน้นลงทุนหุ้นไทยปันผลดี โดยทั้ง 2 กองทุนเป็นชนิดเงินลงทุนเดิมทั้งแบบสะสมมูลค่าและแบบจ่ายปันผล  และได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมส่วนต่างมูลค่าหน่วยลงทุนขาออก(Spread)

ทั้งนี้ กองทุน LTF  6 กองทุน ประกอบด้วย 1.กองทุนเปิดอีสท์สปริง JUMBO 25 หุ้นระยะยาวปันผล (ES-JB25LTFD) 2.กองทุนเปิดอีสท์สปริงJUMBO PLUS หุ้นระยะยาวปันผล (ES-JBPLTFD) 3.กองทุนเปิดอีสท์สปริง หุ้นระยะยาวปันผล (ES-LTFD) 4.กองทุนเปิดอีสท์สปริง Big Cap หุ้นระยะยาว (ES-BIGCAPLTF) 5. กองทุนเปิดอีสท์สปริง Low Beta หุ้นระยะยาวปันผล (ES-LOWBETALTFD) และ 6.กองทุนเปิดอีสท์สปริง Small Medium Cap หุ้นระยะยาว(ES-SMCAPLTF)  โดยมีเงื่อนไขการสับเปลี่ยนเพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีที่สำคัญดังนี้ ต้องสับเปลี่ยน LTF ทุกกองทุน ทุกบลจ. ที่ถืออยู่ โดยต้องโอนหน่วยลงทุน LTF ทั้งหมดที่ถืออยู่ ณ วันที่ 11 มีนาคม 2568  ไปยังกองทุน Thai ESGX หากสับเปลี่ยนไม่ครบจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และสามารถดำเนินการได้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เท่านั้น เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ปี 2568 สูงสุด 300,000 บาท และปี 2569-2572 สูงสุดปีละ 50,000 บาท มีระยะเวลาการถือครอง 5 ปีขึ้นไปนับจากวันที่จัดสรรหน่วย Thai ESGX แต่ละก้อน(นับแบบวันชนวัน)

พร้อมกันนี้ ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2568 ยังได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิดอีสท์ปริง หุ้นปันผล 70 ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (ES-DIV70THAIESGX) และกองทุนเปิดอีสท์ปริง หุ้นปันผลไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (ES-DIVTHAIESGX) สำหรับเงินลงทุนใหม่ ปี 2568 ทั้งแบบสะสมมูลค่าและแบบจ่ายเงินปันผล ซึ่งสามารถลงทุนด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1 บาท  โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ปี 2568 ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน ลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท มีระยะเวลาถือครอง 5 ปีขึ้นไปนับจากวันที่ซื้อ (นับแบบวันชนวัน) และพิเศษสำหรับยอดเงินลงทุนทุกๆ 50,000 บาท รับสิทธิพิเศษเป็นหน่วยลงทุนกองทุนเปิดอีสท์สปริง บริหารเงิน (ES-CASH) มูลค่า 100 บาท

ทั้งนี้บลจ.อีสท์สปริง มองภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี 2568 มีความเสี่ยงจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง จากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลต่อการปรับลดการเติบโตเศรษฐกิจไทยจาก IMF ลงมาเหลือ1.8% ในปีนี้ อย่างไรก็ตามในปีนี้คาดว่า กนง.อาจมีการปรับลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง (ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ) หลังจากที่ในปีนี้ได้มีการลดดอกเบี้ยนโยบายไปแล้ว 2 ครั้ง ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มที่จะโตต่ำกว่าระดับศักยภาพ รวมถึงท่าทีของประธานาธิบดีสหรัฐฯที่มีการผ่อนผันการเก็บภาษีตอบโต้แต่ละประเทศออกไปชั่วคราว 90 วัน และล่าสุดสหรัฐฯและจีนได้บรรลุข้อตกลงชั่วคราว โดยสหรัฐฯลดภาษีสินค้าจากจีน 145% เหลือ 30% และจีนลดภาษีสินค้าสหรัฐฯจาก 125% เหลือ 10% เป็นเวลา 90 วัน (ที่มา: Bloomberg ณ วันที่ 14 พฤษภาคม 2568) ซึ่งหากเจรจากันได้อาจส่งผลบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและการลงทุนของโลกซึ่งจะส่งผลบวกต่อไทยด้วยเช่นกัน

“หากพิจารณาแนวโน้มการลงทุนในไทย ปัจจุบันระดับราคา(Forward P/E) ของ SET Index อยู่ที่ระดับ 13.3 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี อยู่ที่ 16.9เท่า หรือติดลบประมาณ -1.3SD (หมายถึง ผลตอบแทนของสินทรัพย์หรือลงทุน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ไปถึง 1.3 เท่าของค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน) ขณะที่ Price per Book [ P/B ratio หมายถึง อัตราส่วนระหว่างราคาหุ้น (Price) ต่อ มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value per Share)] อยู่ที่ระดับ 1.2 เท่า ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2563 ที่เกิดการระบาดของโควิด19 (ที่มา : Bloomberg ณ วันที่ 14 พฤษภาคม 2568) ถือว่าเป็นระดับที่น่าสนใจในการลงทุน ถึงแม้ SET Index จะยังมีโอกาสถูกปรับกำไรลง แต่ก็อาจจะยังมีอัพไซด์จากระดับราคาปัจจุบันอยู่บ้างและหากพิจารณาร่วมกับมิติที่เป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษี ก็ทำให้การลงทุนในThaiESG ปีนี้ถือว่ามีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น” นางสาวดารบุษป์ กล่าว

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ www.eastspring.co.th หรือโทร 1725 ในวันและเวลาทำการ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าว และควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนสามารถขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนที่ได้รับการแต่งตั้ง การลงทุนในกองทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงของการลงทุนผู้ลงทุนอาจจะได้รับเงินลงทุนคืนมากกว่าหรือน้อยกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้และอาจ ไม่ได้รับชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนภายในระยะเวลาที่กำหนดหรืออาจไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ตามที่มีคำสั่งไว้