ไบโอเทค พร้อมพันธมิตร รุกพื้นที่ทุเรียนเมืองจันท์ นำชีวภัณฑ์จัดการศัตรูพืชและแมลงธรรมชาติ หนุนสู่ระบบเกษตรปลอดภัย
ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยี ชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และสถาบันการจัดการเทคโนโลยี และนวัตกรรมเกษตร (สท.) ภายใต้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยี การเกษตรด้านอารักขาพืช (ศทอ.) จังหวัดชลบุรี และศูนย์พัฒนาไม้ ผลตามพระราชดำริจังหวัดจันทบุรี จัดอบรมอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การจัดการโรคและแมลงศัตรูพื ชในสวนทุเรียนด้วยชีวภัณฑ์” ณ ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนบ้ านมาบโอน จังหวัดจันทบุรี และทางออนไลน์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ (17 ม.ค. 67) เพื่ออบรมให้ความรู้แก่ เกษตรกรและเจ้าหน้าที่เกษตรในพื้ นที่เกี่ยวกับการใช้ชีวภัณฑ์ ควบคุมศัตรูพืชในสวนทุเรียน การผลิตชีวภัณฑ์เบื้องต้นสำหรั บใช้ในสวนทุเรียน เพื่อประโยชน์ด้านความปลอดภัยต่ อตัวเกษตรกรและสิ่งแวดล้ อมจากการใช้ชีวภัณฑ์ ทำให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้ าใจและมั่นใจที่จะใช้ชีวภัณฑ์ เพื่อจัดการศัตรูพืชในสวนทุเรี ยนมากขึ้น รวมถึงสามารถนำชีวภัณฑ์ไปปรั บใช้กับสวนทุเรียนและผลิตชีวภั ณฑ์ใช้เองได้ ส่งเสริมเกษตรกรสร้างมูลค่าเพิ่ มให้ผลผลิตในพื้นที่ ตามนโยบาย BCG สาขาเกษตร ด้วยการสร้างความพร้ อมและความสามารถในการเข้าถึงปั จจัยการผลิตชีวผลิตภัณฑ์สำหรั บพืชเศรษฐกิจในพื้นที่ นำสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิ จของจังหวัดต่อไป
ดร.อลงกรณ์ อำนวยกาญจนสิน นักวิจัยอาวุโส หัวหน้าทีมวิจัยเทคโนโลยี การควบคุมทางชีวภาพ (IBCT) ไบโอเทค สวทช. เปิดเผยว่า การอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่ องการจัดการโรคและแมลงศัตรูพื ชในสวนทุเรียนด้วยชีวภัณฑ์ เป็นการส่งเสริมการใช้ชีวภัณฑ์ ควบคุมโรคและแมลงศัตรูพืชในทุ เรียนอย่างถูกวิธี ให้แก่เกษตรกรและเจ้าหน้าที่ เกษตรในพื้นที่ได้รับความรู้เรื่ องการใช้ชีวภัณฑ์ที่ “ถูกชนิด ถูกเวลา ถูกวิธี” ด้วยการจัดการที่ดีในสวนทุเรียน และการผลิตชีวภัณฑ์ที่ถูกต้ องและมีประสิทธิภาพ โดยทีมวิจัยเทคโนโลยีการควบคุ มทางชีวภาพ มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการใช้ชี วภัณฑ์ในพืชเศรษฐกิจสำคั ญของประเทศไทย ซึ่งทุเรียนนับเป็นผลไม้ที่มีมู ลค่าสูงมาก แต่ติดปัญหาหนึ่งที่สำคัญคื อโรครากเน่าโคนเน่า ปกติเกษตรกรมักใช้สารเคมีปริ มาณสูงมากเพื่อกำจัดแม้กระทั่ งการฉีดเข้าไปที่ลำต้น สิ่งที่ทีมวิจัยฯ พยายามเข้าไปนําเสนอคือ การใช้จุลินทรีย์ เช่น ราไตรโครเดอร์มา เพื่อมาจัดการโรครากเน่าโคนเน่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถากทาที่ แผล ร่วมกับการฉีดพ่นลงดินและบริ เวณโคนต้น ในระยะยาวพบว่าเมื่อใช้ไปแล้ว 3-4 เดือน แผลแห้งลง ต้นที่มีการเหี่ยวเฉาจะฟื้นฟูขึ้ นมา มีใบผลิงอกขึ้นชัดเจน รวมถึงยังมีชีวภัณฑ์กำจัดแมลงศั ตรูพืช เช่น ราบิวเวอเรียที่ใช้จัดการเพลี้ ยไก่แจ้ เพลี้ยไฟและเพลี้ยจักจั่น และราเมตาไรเซียมที่ใช้กำจั ดไรแดงและแมลงปีกแข็งชนิดต่าง ๆ เป็นต้น
“จันทบุรีนับเป็นพื้นที่สำคั ญในภาคตะวันออกที่มีการผลิตทุ เรียนในพื้นที่มาก เพื่อขับเคลื่อนการพั ฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG ทีมวิจัยจึงได้บูรณาการเชิงพื้ นที่ (Area-Based) กับหน่วยงานหลายภาคส่วน ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุ นเกษตรกรให้มีการสร้างมูลค่าเพิ่ มในพืชเศรษฐกิจของจังหวัดอย่ างทุเรียน ด้วยการใช้ชีวภัณฑ์จัดการศัตรู ทุเรียน เพื่อให้ เกษตรกรสามารถทำการเกษตรที่มี ประสิทธิภาพสูง มาตรฐานสูง และรายได้สูง”
ด้าน นายปัญญา ประดิษฐสาร เกษตรจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ทิศทางตลาดทุเรียนปลอดภัยเป็ นเรื่องสำคัญที่จังหวัดได้มี การส่งเสริมและสนับสนุนมาอย่ างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้ชีวภัณฑ์ในสวนทุ เรียน เพื่อเป็นการสร้างความเข้มแข็ งให้กับต้นทุเรียนและลดต้นทุ นให้กับพี่น้องเกษตรกร เพราะหากต้นทุเรียนมีความแข็ งแรง จะสามารถติดดอก ออกผลได้อย่างเต็มที่ แล้วคงต้นอยู่ได้อย่างยาวนาน ต่างจากการใช้สารเคมีอย่างพร่ำ เพรื่อ ที่ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นและต้ นทุเรียนจะอ่อนแอลงไปด้วย ในการสนับสนุนตรงนี้เรามี กลไกลผ่านทางศูนย์จัดการศัตรูพื ชชุมชนที่มีสมาชิกอยู่ในทุ กอำเภอ ในทุกตำบล เพื่อให้การใช้สารชีวภัณฑ์เข้ าไปช่วยลดต้นทุนและเพิ่ มความปลอดภัย และทำให้ผลผลิตมีคุณภาพยาวนาน
ทั้งนี้ การอบรมเชิงปฏิบัติการดังกล่าว มีการให้ความรู้เรื่องการใช้ชี วภัณฑ์และคู่มือปฏิบัติงานเบื้ องต้นในสวนทุเรียน การสำรวจและควบคุมแมลงศัตรูพื ชในสวนทุเรียน การควบคุมโรครากเน่าโคนเน่ าในสวนทุเรียนด้วยราไตรโคเดอร์ มา พร้อมติดอาวุธความรู้ด้วยฐานกิ จกรรมเชิงปฏิบัติการอย่างเข้มข้ นให้เกษตรกรได้ลงมือทำจริง ได้แก่ การใช้และการผลิตชีวภัณฑ์เบื้ องต้น การสำรวจประเมินแมลงศัตรูพื ชและศัตรูธรรมชาติในสวนทุเรียน และการสำรวจประเมินโรคพืชและใช้ ราไตรโคเดอร์มาในสวนทุเรียน รวมถึงยังนำเกษตรกรเข้าเยี่ ยมชมสวนทุเรียนตัวอย่างที่มี การใช้ชีวภัณฑ์เทียบกับการใช้ สารเคมี และใช้แบบผสมผสานด้วย เพื่อให้ทราบถึงแบบแผนการจั ดการศัตรูพืชแบบครบวงจรในทุเรี ยนและองค์ความรู้ในการจัดการศั ตรูพืชอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ในงานยังมีการออกบูธของผู้ ประกอบการที่ได้รับถ่ ายทอดเทคโนโลยีด้านชีวภัณฑ์จาก สวทช. ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ด้านชีวภัณฑ์ที่ มีมาตรฐาน ทำให้เกษตรกรได้ใช้ชีวภัณฑ์ที่ มีคุณภาพและปริมาณตามที่กรมวิ ชาการเกษตรได้แนะนำ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่จะส่งเสริ มการใช้ชีวภัณฑ์ของประเทศไทยอี กทางหนึ่ง