ASIMAR บุ๊คงบ Q1 รายได้แตะ 223 ลบ. โตกว่า 30% ส่งซิกแนวโน้ม Q2 โตต่อเนื่อง หนุนรายได้เติบโต 10% ตามแผน

ASIMAR บุ๊คงบ Q1 รายได้แตะ 223 ลบ. โตกว่า 30% ส่งซิกแนวโน้ม Q2 โตต่อเนื่อง หนุนรายได้เติบโต 10% ตามแผน

“บมจ.เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ หรือ ASIMAR” โชว์ศักยภาพแข็งแกร่ง โค้งแรกปี 68 มีรายได้รวม 223.04 ลบ. เติบโต 30.49% โดยเป็นรายได้งานต่อเรือมากถึง 82.40 ลบ. หรือ 165.80% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2567 เป็นการรับรู้รายได้ของโครงการต่อเรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ ของกองทัพเรือ ทำให้มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.32 ลบ. “นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์” แม่ทัพใหญ่ ส่งซิกแนวโน้มไตรมาส 2 คาดว่ามีการเติบโตที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา สนับสนุนแผนในปี 2568 รายได้เติบโต 10% ตามแผน

นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASIMAR เปิดเผยว่าผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 มีรายได้รวม 223.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.11 ล้านบาท หรือ 30.49% เป็นรายได้งานซ่อมเรือ 123.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.70 ล้านบาท หรือ  0.57% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2567 รายได้หลักจากเรือบรรทุกสินค้าเหลว (Liquid cargo) และเรือบรรทุกก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG Carrier) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพลังงาน สะท้อนความต้องการการใช้เชื้อเพลิงในประเทศและภูมิภาคที่ขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่วนงานต่อเรือ 82.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.40 ล้านบาท หรือ 165.80% เป็นการรับรู้รายได้ของโครงการต่อเรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ ของกองทัพเรือ โดยเป็นการรับรู้สะสม 70.40% ของทั้งโครงการ และโครงการต่อเรืออเนกประสงค์ต้นแบบเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขนาดกลาง (ทำจากวัสดุ HDPE) ของกองทัพเรือ เป็นการรับรู้สะสม 76.90% ของทั้งโครงการ

“บริษัทฯมีกำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/2568 เท่ากับ 49.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.61 ล้านบาท หรือ 15.58% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2567 ส่งผลให้ในไตรมาส 1/2568 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.32 ล้านบาท” นายสุรเดช กล่าว

โดยแผนในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10%  โดยมีแผนเข้าประมูลงานต่อเรือโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะได้รับข่าวดีจากงานประมูลในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นโครงการที่มีศักยภาพที่ ASIMAR คาดว่าจะได้งานเพิ่มเข้ามาเสริมแกร่งรายได้ให้กับบริษัท และจะเข้ามาเพิ่ม Backlog ให้กับบริษัทฯปีนี้ ซึ่งในปัจจุบันบริษัทฯ ยังมี Backlog งานโครงการต่อเรือในมืออีกราว 247 ล้านบาท