NCP ผู้นำ Telesales หุ้น IPO น้องใหม่สุดฮอต พร้อมเข้าเทรด mai ภายในเดือน ก.ค. นี้

NCP ผู้นำ Telesales หุ้น IPO น้องใหม่สุดฮอต พร้อมเข้าเทรด mai ภายในเดือน ก.ค. นี้

นายศรัณย์ เวชสุภาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไนซ์ คอล จำกัด (มหาชน) หรือ NCP ให้สัมภาษณ์กับทาง Stock Focus ถึงภาพรวมธุรกิจของ NCP

ปัจจุบัน บริษัทฯ ประกอบธุรกิจแบ่งเป็น 3 ธุรกิจดังนี้ 1.) ธุรกิจการจัดจำหน่ายสินค้าผ่านโทรศัพท์ (Telesales) ซึ่งปัจจุบันมีพนักงาน 200 กว่าคน กลุ่มฐานข้อมูลลูกค้าเป้าหมายของบริษัทมากกว่า 5 ล้านรายชื่อ โดยสินค้าที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญในการจัดจำหน่าย ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ กลุ่มผลิตภัณฑ์ความสวยงาม และสินค้าเวชสำอาง 2.) ธุรกิจการให้บริการเพิ่มยอดขายสินค้าจากการขายครั้งแรก (Upselling Service) ให้บริการติดต่อลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเพื่อผลักดันยอดการสั่งซื้อต่อบิลผ่านช่องทาง E-Commerce/Social Media ของคู่ค้า 3.) ธุรกิจการให้บริการบริหารพนักงานขาย (Dedicated Telesale Outsourcing) จัดหาและบริหารพนักงาน Telesales ในการขายสินค้าของทางคู่ค้าแต่ละรายโดยเฉพาะ รวมถึงดำเนินการบริการจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้า

ขณะที่บริษัทฯ มีคู่ค้าพันธมิตรที่ขายสินค้าผ่านช่องทางการขายของบริษัทฯ มากกว่า 42 ราย มีผลิตภัณฑ์สินค้าที่จัดจำหน่าย มากกว่า 57 แบรนด์ 203 รายการ แบ่งกลุ่มสินค้าหลักเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่  1.) กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ 2.) กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อความงาม และ 3.) กลุ่มสินค้าเวชสำอาง นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาสินค้าภายใต้แบรนด์ของตัวเอง (House Brand) ภายใต้แบรนด์สินค้า “BN” ที่มีสินค้าออกจำหน่ายแล้ว 21 ผลิตภัณฑ์

ภาพรวมอุตสาหกรรม
“ในโลกดิจิตอลปัจจุบันจะเห็นว่าขายได้แต่ค่าใช้จ่ายในการโฆษณาสูงขึ้น ยอดขายเพิ่มขึ้น แต่กำไรลดลง ซึ่งจริงๆ แล้ว ฐานข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่เป็นสิ่งที่สำคัญ มีผลวิจัยออกมาว่าการใช้ดิจิตอล มาร์เกตติ้งให้ลูกค้ากลับไปซื้อซ้ำ ประสิทธิภาพต่ำกว่าการใช้เทเลเซลล์อยู่หนึ่งเท่าตัว รวมทั้งบริษัทฯ มีระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ หรือ CRM ที่มีประสิทธิภาพ สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าได้ ทำให้เกิดการซื้อซ้ำได้อย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญระบบนี้ยังทำให้การติดต่อลูกค้าทั้งหมดถูกต้องตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอีกด้วย

โครงการคืนคนดีสู่สังคม
บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ในโครงการ “คืนคนดีสู่สังคมกับกรมราชทัณฑ์” โดยการฝึกอาชีพและส่งเสริมทักษะการทำงานให้แก่ผู้ต้องขัง ประเภทการขายทางโทรศัพท์ (Telesales) ให้กับผู้ต้องขังหญิงที่มีความประพฤติดีทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ เรือนจำกลางสมุทรปราการ ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ และทัณฑสถานหญิงชลบุรี โดยบริษัทฯ มีค่าตอบแทนในการทำงานของผู้ต้องขังอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม เพื่อให้ผู้ต้องขังยังสามารถเป็นผู้ดูแลจุนเจือค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัวได้แม้จะถูกคุมขังอยู่ก็ตาม รวมทั้งยังสะสมเป็นทุนเอาไว้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ถูกต้องหลังพ้นโทษอีกด้วย เพื่อจะไม่หวนกลับไปทำผิดซ้ำอีกเป็นการคืนคนดีสู่สังคมอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมขยายโครงการไปยังเรือนจำหรือทัณฑสถานอื่นๆ เพื่อขยายโอกาสให้กับผู้ต้องขังได้ฝึกวิชาชีพ ส่งเสริมการมีงานทำ และมีพนักงานขายทางโทรศัพท์ (Telesales) เพิ่มขึ้นปีละ 100-150 ที่นั่ง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอโครงการและสำรวจพื้นที่เรือนจำแห่งใหม่อีก 5 แห่งทั่วประเทศ

เนื่องจากบริษัทฯ มีระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย รวมทั้งมีทีมงานคอยตรวจสอบการทำงานของพนักงานอยู่ตลอดเวลา และสามารถตรวจสอบการสนทนาของพนักงานได้อย่างละเอียด จึงทำให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจและมั่นใจจากกรมราชทัณฑ์ว่าระบบที่นำไปใช้ปลอดภัยเพียงพอ ทั้งในส่วนของผู้ต้องขังและในส่วนของฐานข้อมูลลูกค้า

นอกจากผู้ต้องขังจะได้ฝึกอาชีพแล้วยังจะได้รับค่าจ้างอย่างเป็นธรรมจากบริษัทฯ อีกด้วยซึ่งสามารถนำค่าจ้างเหล่านี้ไปจุนเจือครอบครัวทั้งที่ยังอยู่ในเรือนจำได้รวมทั้งสามารถสะสมเก็บไว้เป็นเงินทุนในการตั้งต้นชีวิตใหม่หลังจากพ้นโทษได้อีกด้วย และล่าสุดบริษัทฯ ยังมีโครงการต่อเนื่องเมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษแล้วสามารถเข้าทำงานกับบริษัทฯ ได้ทันทีจึงเป็นการคืนคนดีสู่สังคมอย่างแท้จริง

ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา
สำหรับผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี (2564 – 2566) บริษัทฯ มีรายได้รวม 191.23 ล้านบาท 181.03 ล้านบาท 173.11 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 25.56 ล้านบาท 20.22 ล้านบาท และ 12.53 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ผลประกอบการงวด 3 เดือนแรกปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 45.30 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2.75 ล้านบาท ตามลำดับ

รายละเอียดในการเสนอขายหุ้น
บริษัทฯ เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) จำนวน 50,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นร้อยละ 27.78 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจบริการ (SERVICE) ราคาหุ้นละ 2.00 บาท โดยมีแผนจะเข้าเทรดในสิ้นเดือนกรกฏาคมนี้

วัตถุประสงค์ในการใช้เงิน
เงินที่ได้รับจากการเสนอขายหลักทรัพย์จะนำไปใช้เพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ เช่น การก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ จำนวน 30 ล้านบาท ภายในไตรมาส 1 ปี 2568, ก่อสร้างสถานที่ทำงานในเรือนจำ จำนวน 10 ล้านบาท ภายในปี 2569, พัฒนาระบบเทคโนโลยีซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจใหม่และพัฒนาระบบเครือข่ายเพื่อรองรับการเพิ่มจำนวนพนักงาน จำนวน 5 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2568 และเป็นเงินทุนหมุนเวียน นับเป็นการเพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถ ที่จะช่วยเสริมสร้างการเติบโตของ NCP ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน

จุดเด่นของ NCP

บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้า และให้บริการทำการตลาดแบบตรง (Direct Marketing) ผ่านช่องทางการขายสินค้าทางโทรศัพท์ (Telesales) ที่มีระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relationship Management) หรือ CRM ของตัวเอง มีระบบความมั่นคงปลอดภัยในการดูแลข้อมูลลูกค้าตามมาตรฐานของ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีฐานข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าแต่ละรายที่สามารถนำไปต่อยอดและร่วมวางกลยุทธ์การขายสินค้ากับคู่ค้าพันธมิตร การนำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงการขยายขอบเขตการทำธุรกิจต่อยอดจากความเชี่ยวชาญเดิมในการให้บริการเพิ่มยอดขายสินค้าจากการขายครั้งแรก (Upselling Service) เพื่อติดต่อลูกค้าและนำเสนอการขายสินค้าเพิ่มเติม ติดตามการขาย และผลักดันยอดการสั่งซื้อผ่านการนำเสนอโปรโมชั่นต่างๆ ที่วางกลยุทธ์ร่วมกับคู่ค้าพันธมิตร และการให้บริการบริหารพนักงานขาย (Dedicated Telesale Outsourcing) ซึ่งเป็นการจัดหาทีมขายสินค้าทางโทรศัพท์ (Telesales) เฉพาะเจาะจงให้กับเจ้าของสินค้ารายต่างๆ รวมถึงการให้บริการแบบครบวงจร ครอบคลุมถึงการจัดการระบบคลังสินค้า การจัดส่ง การเก็บเงิน การวางแผนแนวทางนโยบายการขายสินค้าผ่านการวิเคราะห์การสั่งในอดีตของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อให้เกิดการซื้อซ้ำร่วมกับการนำเสนอสินค้าใหม่ๆ ที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอาจมีความสนใจ ทำให้บริษัทฯ เป็นผู้นำในธุรกิจการขายผ่านโทรศัพท์ (Telemarketing) ที่ดำเนินการให้กับคู่ค้าพันธมิตร นอกเหนือจากการขายสินค้าของบริษัท (House Brand) เพียงอย่างเดียว

ฝากถึงนักลงทุน

“ผมบอกพนักงานเสมอว่า สินค้าที่เราขายเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพ เวลาที่คุณโทรไปหาลูกค้า คุณไม่ได้โทรไปขายของ แต่คุณกำลังโทรไปเพื่อมอบคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า เรามีสินค้าที่คัดสรรมาอย่างดี คุณภาพสูงเพื่อตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพหรือความงามต่างๆ ของลูกค้า ตามชื่อของบริษัทที่ว่า Nice Call หรือการโทรที่สวยงาม นั่นหมายถึงโทรไปแล้วมีแต่สิ่งดีงามเกิดขึ้นกับลูกค้า และการเข้าตลาดหลักทรัพย์ทำให้เรายกระดับมาตรฐานของบริษัทฯ ขึ้นกลายเป็น Nice Company ที่น่าเชื่อถือของนักลงทุนและคนทั่วไป ผมมองว่าในความภาคภูมิใจของอาชีพเรา เราจึงอยากจะทำให้ธุรกิจของเราได้เข้าสู่มาตรฐานสากล ได้ระดมทุนเข้าในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อแสดงให้เห็นว่าธุรกิจเราสามารถเข้าระดมทุนได้และมีมาตรฐานสากล รวมถึงได้ช่วยเหลือสังคมผ่านโครงการคืนคนดีสู่สังคมอีกด้วย ผมและทีมงานมีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะบริหารธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนเราจะนำไปพัฒนาธุรกิจของเราเป็นหลัก นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนใน ไนซ์ คอล ได้เลยครับ” นายศรัณย์ กล่าว

 

#StockFocus #NPC #หุ้นIPO #mai #ตลาดหลักทรัพย์ #ไนซ์คอล #ข่าวหุ้น

Share:

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

TRITN ประกาศ 2 ข่าวดี!! การผนวกรวมที่ดินขนาดใหญ่ในจังหวัดชลบุรี สร้างโครงการท่องเที่ยวและเอนเตอร์เทนเมนท์เมกะโปรเจกต์สุดล้ำสมัย และเสริมด้วยงานใหญ่ คว้าสัญญาลงนามก่อสร้างวางท่อส่วนต่อขยายระบบท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือระยะที่ 3 สระบุรี-อ่างทอง กับ บริษัท บาฟส์ขนส่งทางท่อ จำกัด

ค้นหาข่าวที่คุณสนใจ