PRM Q467 เรือใหญ่เข้าอู่ แต่ปี 68 โตจากเรือใหม่

PRM Q467 เรือใหญ่เข้าอู่ แต่ปี 68 โตจากเรือใหม่

โดย บล.ฟิลลิป – ซื้อ TP’68 10.00 – 4067 เรือใหญ่เข้าอู่(Dry Dock) เร็วกว่าแผน กระทบรายได้ และในปี 2568 รับรู้รายได้จากเรือใหม่ที่เข้ามา 4067 และปี 2568 รวม 5 ลํา และเรือ FSO ที่กลับมาทํางานปลายปี 2567 แต่จะมีปลดระวาง FSU 1 ลํา กําไรยังจะเติบโตได้ ปรับกําไรใน ปี 2567 และปี 2568 ลงจากเดิม 7.1% และ 5.4% เป็น 2,147 ลบ. และ 2,338 ลบ. จากเรือเข้า Dry Dock นอกแผน และการปลดระวาง FSU ปรับราคาพื้นฐานเป็น 10 บาท

4067 เรือใหญ่เข้าอู่นอกแผน: 4067 PRM จะนําเรือใหญ่เข้า Dry Dock ซึ่งอยู่นอกแผน โดยมี เรือ AWB (เรือที่พักอาศัย) 1 ลํา เรือ FSU 1 ลํา และเรือ VLCC 1 ล้ํา เป็นเวลา 30-35 วัน ซึ่งล้วน แต่เป็นเรือขนาดใหญ่และรายได้ต่อลําสูง แม้จะมีรับเรือ Crew Boat เพิ่ม 2 ลําจากการได้สัญญา ADNOC (สัญญา 5 ปี) เริ่มงาน 15 ธ.ค. และเรือ FSO (ได้สัญญา PTTEP ที่ 5 ปี+5ปี) เริ่มงาน 25 ธ.ค. รวมถึงเริ่มรวมงบ วี.ซี. ชิปปิ้งฯ ที่ M&A ในเดือน ต.ค. แต่ผลบวกไม่มาก เพราะเป็นช่วงปลาย ไตรมาส แม้กําไรปกติคาดจะลดลง แต่จะได้กําไร Fx จากเงินบาทที่อ่อนค่า กําไรสุทธิยังโตได้ q-q

ปี 2568 แนวโน้มยังดีจากการรับรู้รายได้เรือใหม่: แนวโน้มปี 2568 ยังคงเห็นการเติบโตจากเรือ Crew Boat ใหม่ 2 ลํา และเรือ FSO 1 ลํา ที่เข้าปลายปี 2567 และปี 2568 จะรับเรือ Crew Boat ใหม่อีก 2 ลํา (ก.พ. และ มิ.ย.) ทํางานให้ PTTEP และเรือ FSU อีก 1 ลํา เริ่มงานกลางเดือน ก.พ. อีกทั้ง เรือ AWB ที่ Dry Dock ปลายปี 2567 กลับมาทํางานจะได้ค่าเช่าสูงขึ้น แต่จะปลดระวาง เรือ FSU 1 ลําใน ก.ย. ซึ่งต้องดูความต้องการของลูกค้า อาจทําให้การปลดระวางถูกยืดออกไป ทําให้มีเรือเพิ่มเป็น 69 ลํา (ก่อนปลดระวาง FSU) จากสิ้น 3Q67 ที่มีเรือ 63 ลํา

ต่อเรือกลุ่มขนส่งน้ํามันสําเร็จรูปอีก 6 ลํา: PRM จะต่อเรือในกลุ่มขนส่งน้ํามันสําเร็จรูป (PCT) อีก 6 ลําขนาดราว 2,500 DWT จะเซ็นสัญญาให้ได้ปลายปีนี้ เพื่อทดแทนเรือเก่าขนาด 1,800- 2,000 DWT ที่จะปลดระวาง โดยเรือใหม่จะทยอยรับใน 2H69 แม้จํานวนเรือเท่าเดิม แต่อัตราการ บรรทุกสูงขึ้น ทําให้ Capacity เพิ่มขึ้น ในขณะที่ค่าใช้จ่ายลูกเรือเท่าเดิม

 

 

Share:

ข่าวล่าสุด

ค้นหาข่าวที่คุณสนใจ