STI ได้รับความไว้วางใจให้เป็นที่ปรึกษาด้านงานก่อสร้าง ร่วมยินดีในงานเปิดตัวโครงการ “อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์”

บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI ได้รับความไว้วางใจให้เป็นที่ปรึกษาด้านงานก่อสร้างโครงการพร้อมร่วมแสดงความยินดีในงานเปิดตัวโครงการ “อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์” ภายใต้การร่วมทุนของ 3 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ

บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI ผู้นำบริการด้านวิศวกรที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างครบวงจร นำโดย นายไพรัช เล้าประเสริฐ (ที่ 3 จากซ้าย) รองประธานกรรมการบริหาร และนายสิงห์ มิตรตระกูลกิจ (ที่ 1 จากซ้าย) ผู้อำนวยการอาวุโส ร่วมแสดงความยินดีกับ นางสาวกมลกาญจน์ คงคาทอง (ที่ 4 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด ในโอกาสเปิดตัว “โครงการอารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง 3 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ได้แก่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) และบริษัทนิคมอุตสาหกรรมเอเซีย จำกัด

โครงการ อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์ เป็นการพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรมและนวัตกรรมครบวงจรแห่งแรกของประเทศไทย (The First Industrial Tech Ecosystem in Thailand) บนพื้นที่ขนาด 4,631 ไร่ ที่จังหวัดสมุทรปราการ ตำแหน่งที่ตั้งเชื่อมต่อกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยทิศใต้ติดกับถนนบางนา-ตราด (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 34) และทิศเหนือติดกับถนนมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรี (ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7)

บริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด ได้วางแผนพัฒนาที่ดินให้เป็นเขตอุตสาหกรรมแบบบูรณาการ ประกอบด้วย พื้นที่อุตสาหกรรมการผลิต อาคารคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า พื้นที่เทคโนโลยีเกษตรกรรม พื้นที่พาณิชยกรรม พื้นที่พักอาศัย และพื้นที่พัฒนานวัตกรรม พร้อมระบบสาธารณูปโภคครบครัน

STI ได้รับความไว้วางใจให้เป็นที่ปรึกษาด้านงานก่อสร้างโครงการฯ ครอบคลุมทั้งช่วงก่อนการก่อสร้าง (Pre-Construction) และช่วงระหว่างการก่อสร้าง (Construction Period) โดยมีขอบเขตงานโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ได้แก่ งานถมดินและปรับปรุงคุณภาพดิน งานก่อสร้างถนน สะพาน ระบบป้องกันน้ำท่วม ระบบระบายน้ำและบำบัดน้ำเสีย ระบบประปา ระบบไฟฟ้า ระบบสื่อสาร และงานภูมิสถาปัตยกรรม โครงการนี้จะเป็นแลนด์มาร์คสำคัญในการดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก และเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคต